______________________________________________________________________________________
ผู้ซื้อต้องการให้ผู้ขายรื้อถอนอาคารชุดโครงการนี้ตั้งแต่ชั้นที่ 28 ถึงชั้นที่ 30 ออกไป และให้ติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาแยกต่างหากในแต่ละยูนิตของห้องชุด
ที่ 28 ถึงชั้นที่ 30 และผู้ขายต้องทำมิเตอร์น้ำประปาแยกแต่ละห้องชุดหรือไม่ อีกประเด็นคือ ห้องชุดพิพาทมีเนื้อที่เท่าไหร่ และผู้ซื้อต้องชำระราคาห้องชุดแก่ผู้ขายอีกเท่าใด
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การสร้างอาคารชุดพิพาทสูง 30 ชั้นผู้ขายได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ก่อสร้างได้ตามกฎหมาย ดังนั้น เมื่อผู้ขายได้ก่อสร้างอาคารชุดพิพาทตามแบบแปลนที่ขออนุญาต ผู้ขายจึงมีสิทธิที่จะก่อสร้างอาคารได้
เนื่องจากเอกสารคำโฆษณาถือเป็นสัญญาต่อเนื่องกับสัญญาจะซื้อจะขายที่ผู้ซื้อทำไว้กับผู้ขาย (เทียบแนวคำวินิจฉัยของศาลฎีกาปี 2538)
ดังนั้น ผู้ซื้อจึงมีสิทธิจะบอกเลิกสัญญากับผู้ขายและเรียกค่าเสียหายจากผู้ขายได้เท่านั้น
แต่ผู้ซื้อหามีสิทธิที่จะบังคับผู้ขายให้รื้อถอนอาคารชั้นที่ 28 ถึงชั้นที่ 30 ไม่ เนื่องจากผู้ขายได้รบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ก่อสร้างอาคารชุดพิพาทได้ถึงชั้นที่ 30 เว้นแต่ผู้ขายจะก่อสร้างอาคารผิดแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต ตัวอย่างเช่น แบบแปลนอนุญาตให้สร้างสระว่ายน้ำในชั้นที่ 5 แต่ผู้ขายกลับไปสร้างสระว่ายน้ำไว้ชั้นที่ 9 เป็นต้น ดังนี้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจดำเนินตามกฎหมายกับผู้ขายได้
ตามสัญญาระบุว่า ผู้ขายจะต้องติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาแยกต่างหากในแต่ละห้องชุด เมื่อผู้ขายไม่ดำเนินการติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาแยกต่างหากในแต่ละห้องชุด จึงถือว่าผู้ขายได้กระทำผิดสัญญาข้อนี้
ผู้ซื้อจึงมิสิทธิขอให้ผู้ขายติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาแยกต่างหากสำหรับห้องชุดของผู้ซื้อได้
ตามสัญญาระบุว่า ถ้าพื้นที่ของห้องชุดตามสัญญาแตกต่างกับ
สัญญานี้ตั้งแต่ร้อยละห้า ราคาที่ต้องชำระต้องปรับเพิ่มหรือลดลงตามส่วน
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า หนังสือกรรสิทธิ์ห้องชุดที่รัฐออกให้ระบุว่ามีพื้นที่ 74.29 ตารางเมตร และระบุในสารบัญจดทะเบียนว่ารายการทรัพย์สินส่วนบุคคลที่อยู่นอกห้องชุดคือส่วนระเบียงห้องชุดมีพื้นที่ 5.28 ตารางเมตร ดังนั้นพื้นที่ห้องชุดเท่ากับ 79.57 ตารางเมตร
จึงต้องคิดราคาห้องชุดตามจำนวนนี้ และเมื่อได้ชำระไปบ้างแล้วเท่าใด ส่วนที่เหลือเมื่อรวมกับที่ชำระไปแล้ว ต้องไม่เกินราคาทั้งหมดของพื้นที่ 79.57 ตารางเมตร